ลักษณะหรืออาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย อาจเป็นสัญญาณบอกโรคที่แฝงอยู่โดยที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็เป็นได้ดังนั้น คุกคนควรสังเกตตตัวเองอย่าวสม่ำเสมอ และควรไปตรวจสุขภาพประจำปี หากมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกาย จะอาการแบบไหนบ้าง ให้เราได้สังเกตุเบื้องต้น เรามาติดตามกันเลย
สัญญาณต่อไปนี้ ที่ควรระวังและให้ความใส่ใจ
1. ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น
สาเหตเกิดจาขาดกรดไขมันที่จำเป็นโดยปกติผิวหนงแห้งอาจเกิดจากการขาดน้ำ ในแต่ละวันจึงควรดื่มน้ำให้มากๆแม้จะไม่รู้สึกระหายก็ตามและถ้าอยู่ในช่วงอากาศเย็นหรืออกำลังกายก็ควรดื่มน้ำมากกว่าปกติและที่สำคัญกรดไขมันในกร่างกายทำให้ผิวที่มีความชุ่มชื้นแตกแห้งได้ง่ายๆนะ
2. กระดูกเปราะ หักง่าย
เป็นเพราะร่างกายได้รับวิตามินบี 6 หรือวิตามิน บีอื่นไม่เพียงพอ ซึ่งการได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ก่อเป้นต้นเหตุของการเครียดยอ่างหนักเป็นเวลานาน ร่างกายจังต้องการวิตามินบีมากขึ้น ทำให้เกิดการขาดวิตามินชนิดนี้ได้ง่าย ดั้งนั้นควรรับประทานวิตตามิน บี 6 และวิตามินบีรวม วันละ 200 มิลลิกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ถ้าหากดีขึ้นให้ลดปริมาณลง
3. ตะคริว
เป็นอาการของเลือดที่ไหลเวียนผิวปกติ หรือการหดตัวของกล้ามเนื้อทั้งจากการขาดวิตามินอี และแม็กนีเซี่ยมจึงควรให้ร่ายกายได้รับวิตามิน E และแมกนีเซียม 400 มิลลิกรับต่อวัน และให้นวดบริเวณที่เป็นตะคริวบ่อยเพื่อช่วยผ่อนคลายและลดอาการตะคริวลง
4. อาการหดหู่
ร่างกายต้องการวิตามินบีเพื่อสร้างสื่อประสาทเพราะหากร่างกายขาดวิตามินทั้งหลายจะทำให้เกิดการซึมและเกิดอาการหดหู่ได้ดังนั้นควรให้ร่างกายได้รับวิตามินบีรวม อย่างเป็นประจำซึ่งจะช่วยทำให้ความรู้สึกหดหู่หายไป
5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เป็นเหตุมาจากการขาดฟลาโวนอยด์ซึ่งอยู่ในตระกูลต่อต้านอนุมูลอิสระ พบในผักและผลไม้บรรเทาได้โดยการกินสารสกัดจากแคนเบอร์รี่เข้มข้น ซึ่งในแครนเบอร์รี่มีสารฟลาโวนอยช่วยลดแบคทีเรียในร่างกายที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะได้ หรือกินกระเจี๊ยบแคปซูนก็สามารถช่วยลดอาการได้เช่นกัน
6. เลือดออกตามไรฟัน
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ขาดวิตามินซีและโคเอนไซม์ คิว 10 เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดการอักเสบ และสามารถลุกลามจนเกิดอาการเรื้อรังได้ซึ่งนอกจากวิตามินซีและโคเอนไซม์ คิว 10 แล้วยังมีสารต้านอนุมูลอิสระก็สามารถช่วยต่อต้านแบคทีเรียได้ดี
7. ไมเกรน
อาการไมเกรน เกิดจากการขาดวิตามิน บี 2 ทำให้เส้นเลือดในสมองขยายตัวมากไปจึงเกิดอาการปวดศรีษะ นอกจากนี้ความเครียดยังส่งผลให้เป็นไมเกรนอีกด้วย ดังนั้นควรกินวิตามินบี 2 400 มิลลิกรัม และคิว 10 150 มิลลิกรัมติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน
บทความแนะนำ: อาหารลดไมเกรน และวิธีป้องกันที่คุณควรรู้
8. ใต้ตาคล้ำ
เกิดจากการแพ้หรือความเครียด ร่วมกับการขาดวิตามินบีจึงควรกินวิตามินบีวันละ 2 ครั้ง และอาหารที่มีสารต่อตานอนะมูลอิสระ และหากปล่อยให้ใต้ตาคล้ำหรือเพราะมีถุงใต้ตาจะยิ่งรักษาได้ยากอีกทั้งต้องระวังพวกเกสรดอกไม้เพราะจะทำให้เกิดการแพ้ ลดปริมาณแอลกอฮอล์และอาหารหนักก่อนนอน ส่วนวิตามินบี 6 ข่วยชับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายทำให้น้ำที่คั่งบริเวณใต้ตาลดลง
9. ความวิตกกังวล
จำเป็นต้องได้รับอาหารประเภททั่วและธัญพืช รวมทั้งโปรตีนจากปลา เพื่อให้ได้กรดอมิโนที่จำเป็นในการช่วยลดความเครียดและคลายความวิตกกังวล นอกจากนี้ควรกินวิตามินรวมและอิโนซิทอลในปริมาณวันละ 2-5 กรัมเพื่อปั้งกันการขาดวิตามิน และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย
10. ขาดประจำเดือน
เกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล การขาดวิตามินและเกลือแร่ควรกินอาหารที่มีสารอาหารจำพวกวิตามินบีรวม แคลเซียม แมกนีเซียมและวิตามินอี เพื่อช่วยปรับสมดุลและฮอร์โมนภายในร่างกายของเราอีกด้วย
สรุป
ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังเจอ สัญญาณบอกโรค ที่ได้กล่าวข้างต้นหรือกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กลับมาดี หรือไปตรวจสุภาพ ตามโรงพบาลใกล้บ้านเพื่อรักษาสุขภาพกันตั้งแต่เนินๆ จะดีกว่าค่ะ